หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ขอพร-บูชา 'พระสีวลีเถระ' วัดทุ่งเศรษฐี

    หากเอ่ยชื่ออัมพวา-สมุทรสงครามหลายคนคงนึกถึง “ตลาดน้ำอัมพวา” ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่ในอดีตอัมพวาเป็นถิ่นบำเพ็ญเพียรของพระเถราจารย์โด่งดัง โดยเฉพาะ หลวงพ่อคง ธมฺมโชโต แห่งวัดบางกะพ้อม หนึ่งในสุดยอดพระเกจิแห่งสยามประเทศ ผู้สร้างตำนานหนังเหนียวอันลือลั่น นอกจากนี้ยังมี หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ และ หลวงพ่อแดง วัดอินทาราม ก็ได้รับการเคารพนับถือเช่นเดียวกัน

    กาลเวลาผ่านไป เกจิหลาย ๆ รูปได้ละสังขารเหลือทิ้งไว้เพียงคำสอนและสรรพวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่สืบทอดสู่ชนรุ่นหลัง หนึ่งในนั้นคือ พระครูสังฆรักษ์วิทยา ญาณธฺมโม หรือ หลวงพี่ทุย เจ้าอาวาสวัดทุ่งเศรษฐี ต.เมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นับเป็นภิกษุอีกรูปหนึ่งที่น่าศรัทธาเลื่อมใส
       
    พระครูสังฆรักษ์วิทยา ญาณธฺมโม เดิมชื่อ วิทยา จตุรัต  เกิดวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ ตรงกับปีกุน เป็นบุตรของนายสวง นางมาลิน จตุรัต ณ บ้านเลขที่ ๕๔/๑๑ หมู่  ๒ ต.เมืองใหม่ ประกอบอาชีพทำสวนผลไม้ โดยมีพี่น้องทั้งหมด  ๔ คน ท่านเป็นบุตรชายคนโต
       
    ครั้นอายุครบบวช ๒๐ ปีบริบูรณ์ บิดามารดาได้พามาอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดอินทาราม อ.อัมพวา โดยมีพระสุนทรธรรมกิจ (หลวงปู่หยอด) เจ้าอาวาสวัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิศิษย์ประชานารถ (หลวงพ่อแดง) เจ้าอาวาสวัดอินทาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาธีระ เจ้าอาวาสวัดหนองกะพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ในระหว่างบวชเรียนท่านได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด จนเป็นที่ไว้วางใจของพระอุปัชฌาย์และพระชั้นผู้ใหญ่ด้วยดี หลวงพ่อแดง เจ้าอาวาสและเกจิชื่อดังแห่งวัดอินทาราม จึงได้ถ่ายทอดวิชาอาคมต่าง ๆ ให้พระครูสังฆรักษ์วิทยา หรือหลวงพี่ทุย อย่างไม่มีการปิดบัง โดยเฉพาะเคล็ดวิชา “ไหมเจ็ดสี” ที่โด่งดังของท่าน ซึ่งวิชานี้สืบทอดกันมาตั้งแต่รุ่นพระเดชพระคุณ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ มาสู่ยุคของหลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ และหลวงพ่อแดง วัดอินทาราม จนกระทั่งมาถึง พระครูสังฆรักษ์วิทยา หรือหลวงพี่ทุย เป็นรุ่นสุดท้าย
       
    เมื่อเห็นว่าวิชาแก่กล้าดีแล้ว หลวงพ่อแดง วัดอินทาราม ได้ส่ง พระครูสังฆรักษ์วิทยา ไปพัฒนาวัดร้างเก่าแก่อายุประมาณ ๒๐๐ ปี ซุกซ่อนอยู่กลางป่ากล้วยดงมะพร้าว ลิ้นจี่ และส้มโอ มีเหลือให้เห็นเพียงกองอิฐผุพัง ถ้วยชามแตก ๆ ที่งมได้จากในคลองหน้าวัดอีกจำนวนหนึ่ง โดยวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต ต.เมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม  
       
    พระครูสังฆรักษ์วิทยา ตั้งสำนักสงฆ์ ขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ ตอนนั้นหลวงพ่อแดง ผู้เป็นอาจารย์  ได้มอบพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ไปประดิษฐานประจำวัด เป็น พระสิวลีเนื้อปูนปั้น ความสูงประมาณ ๑๘๐ ซม. เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ซึ่งหลวงพี่ทุย ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถสร้างความเจริญให้สำนักสงฆ์จนสร้างกุฏิได้ ๑ หลัง จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๖ ก็ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาจัดตั้งเป็นวัดชื่อว่า “วัดทุ่งเศรษฐี” จากนั้นมา
       
    ต่อมา ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เดินทางไปทำบุญในเขต อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ครั้นได้พบและสนทนากับพระครูสังฆรักษ์วิทยา ได้เสนอให้สร้างโบสถ์แบบ เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้แบบแปลนก่อสร้างวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางวัดและคณะกรรมการก็เห็นดีด้วย จึงได้ทำเรื่องขออนุญาตผ่านมูลนิธิชัยพัฒนา จนได้รับพระบรมราชานุญาตให้ใช้เป็นแบบก่อสร้างพระอุโบสถวัดทุ่งเศรษฐีจนสำเร็จลุล่วง
       
    จากความเจริญรุ่งเรืองอันรวดเร็วของวัดทุ่งเศรษฐี ซึ่งแต่เดิมเป็นวัดร้าง ปัจจุบันกลายเป็นวัดสวยสมบูรณ์ พระครูสังฆรักษ์วิทยา เชื่อว่าเป็นเพราะบุญบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ของพระสิวลีที่ประดิษฐานภายในวัดนั่นเอง เพราะหลังจากอัญเชิญมาประดิษฐานไม่นาน ก็มีญาติโยมเดินทางมาทำบุญไม่ขาดสายจนทุกวันนี้
       
    ประวัติโดยย่อของ พระสิวลี เป็นโอรสของ พระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่จุติลงมาปฏิสนธิในครรภ์พระมารดา  ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่านอยู่ในครรภ์นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระนางได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส จึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพรจาก พระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด
       
    ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานหายไป พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย พระประยูรญาติทั้งหลายได้ถวายพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสา ว่า “สิวลีกุมาร”
       
    ครั้นเติบใหญ่ สิวลีกุมาร พบกับ พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ชักชวนให้บวช สิวลีกุมารซึ่งมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว จึงได้กราบทูลขอพระบิดามารดา ท่านก็ทรงอนุญาต และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุธรรมขั้นสูงสำเร็จมรรคผลเป็นพระอรหันต์ในทันที ด้วยอำนาจบุญบารมีที่สั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ ส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ มีเทวดา นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย นำปัจจัยต่าง ๆ มาถวายมิได้ขาด ลาภสักการะเหล่านี้ได้เผื่อแผ่ไปยังพระสงฆ์สาวกองค์อื่น  ๆ ด้วย
       
    ครั้งหนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จำนวน ๕๐๐ รูปไปเยี่ยมพระเรวตะ ผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ซึ่งจำพรรษาอยู่ ณ ป่าไม้ตะเคียน เมื่อเสด็จมาถึงทางสองแพร่ง พระอานนท์เถระได้กราบทูลว่า ถ้าเสด็จไปทางอ้อม ระยะทางไกล ๖๐ โยชน์ ตามเส้นทางมีประชาชนอยู่อาศัยมาก พระภิกษุไม่ลำบากด้วยภิกขาจาร แต่ถ้าเสด็จไปทางลัดระยะทางประมาณ ๓๐ โยชน์ ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย มีสภาพเป็นป่าใหญ่ มีแต่อมนุษย์และสัตว์ร้ายอยู่อาศัย พระภิกษุสงฆ์จะลำบากด้วยภิกขาจาร พระบรมศาสดาได้ตรัสถามพระอานนท์ว่า พระสิวลีมากับเราด้วยหรือไม่ ได้คำตอบว่า “พระสิวลีมากับเราด้วยพระเจ้าข้า” พระพุทธองค์ตรัสว่า ถ้าอย่างนั้นก็จงไปทางลัด ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารบิณฑบาต เพราะเทวดาทั้งหลายที่สถิตอยู่ในป่าระหว่างทาง จะจัดสถานที่พักและอาหารบิณฑบาตไว้ถวายพระสิวลีผู้เป็นที่เคารพนับถือของพวกเขา เราทั้งหลายก็จะได้อาศัยบุญของพระสิวลีนั้นด้วย เหตุนี้พระสิวลีจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นเอกแห่งโชคลาภสักการะทั้งปวง
       
    พระครูสังฆรักษ์วิทยา ได้จัดสร้างพระสิวลีมหาลาภขึ้นเพื่อให้ญาติโยมและผู้ศรัทธาบูชา ซึ่งมีทั้งแบบบูชา ขนาดความสูง ๕ นิ้ว ๙ นิ้ว ๑๕ นิ้ว โดยพระบูชานั้นทุกองค์ใต้ฐานทำการบรรจุผงพุทธคุณ ไหมเจ็ดสี และเหรียญกษาปณ์ นอกจากนี้ยังมีแบบคล้องคอ แขวนหน้ารถ เอาไว้แจกจ่ายญาติโยมที่มาทำบุญ ผู้ศรัทธาที่เช่าบูชาพกติดตัว ต่างก็มีประสบการณ์เล่าขานด้าน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และ ทำมาค้าขายดี ทำให้รุ่น ๑ และรุ่น ๒ หมดเกลี้ยงไปจากวัดอย่างรวดเร็ว
       
    พระครูสังฆรักษ์วิทยา จึงจัดสร้าง รุ่นที่ ๓ ทำพิธีพุทธาภิเษกและอธิษฐานจิตอย่างเข้มขลัง ก่อนให้เช่าบูชา เพื่อหาทุนทรัพย์พัฒนาวัดและขยายอาคาร ศาลา ที่พักสงฆ์ ที่พักให้ญาติโยม เนื่องจากในช่วงปริวาสกรรมนั้น มักมีพระสงฆ์จากทั่วประเทศมาร่วมพิธีเกือบ ๓๐๐ รูป และประชาชนอีกกว่า ๑,๐๐๐ คน มาทำบุญ ทำให้พระสงฆ์และญาติโยมต้องแออัดยัดเยียด ไม่สะดวกต่อการดำรงชีพ ดังนั้นทางวัดจึงมีโครงการซื้อที่ดินเพื่อปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและก่อสร้างเสนาสนะเพิ่มเติม เพื่อให้ญาติโยมมีสถานที่พักผ่อน ปฏิบัติธรรม และร่วมกิจกรรมงานบุญกับทางวัด
       
    อย่างไรก็ตามใครที่เช่าบูชาพระสิวลีไปนั้น พระครูสังฆรักษ์วิทยา ขอให้เป็นคนดี มีศีลธรรม ขยันหมั่นเพียร ยึดมั่นในศีล ๕ หมั่นสวดมนต์ และท่องคาถาพระสิวลีก่อนนอนและตอนเช้าก่อนออกไปทำมาหากิน ทุกวันสะสมเงินหยอดกระปุกออมสินไว้วันละ ๑ บาท ๕ บาท ๑๐ บาท ก็ได้ เมื่อมีโอกาสก็ให้เอาเงินนั้นไปทำบุญ  ท่านจะมีโชคลาภ ค้าขายดี หาเงินได้คล่อง ๆ
       
    สำหรับผู้ที่สนใจไปสักการะ พระสิวลี หรือบูชาวัตถุมงคล หากเดินทางจากกรุงเทพฯ ให้ใช้ถนนเพชรเกษม เลี้ยวซ้ายที่แยก อ.บางแพ จ.ราชบุรี ผ่าน อ.ดำเนินสะดวก เลยสามแยกเข้าอัมพวาไปเล็กน้อย แยกเข้าซอยขวามือ จะมีป้ายบอกทางของวัดทุ่งเศรษฐี ผ่านสวนลิ้นจี่ ส้มโอ มะพร้าว เข้าไปอีกประมาณ ๘ กม. ก็จะถึงวัด ถ้าออกจากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพระรามที่ ๒ ถึงแม่กลองเลี้ยวขวาไปตามเส้นทางอุทยาน ร.๒ ตลาดน้ำอัมพวา ก่อนถึงแยกอัมพวาเลี้ยวซ้ายตรงทางแยกจะมีป้ายบอกทางไปวัด หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ โทร.๐-๓๔๗๕-๗๑๒๘ ทุกวัน.

    เสรี มั่นมาก/อาราธนานัง


    • Update : 25/6/2554
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved