หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พระอุดมประชาทรแสงประทีปดวงสุดท้ายผู้ป่วยโรคเอดส์

    พระอุดมประชาทรแสงประทีปดวงสุดท้ายผู้ป่วยโรคเอดส์

                  ประเทศไทยค้นพบผู้ป่วยเอดส์รายแรกของประเทศไทยที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยศ.นพ.ประพันธ์ ภานุภาค เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๒๘ ส่วนสถานการณ์เอดส์ไทยในปัจจุบัน ถือว่าดีขึ้นพบคนไทยติดเชื้อเอดส์ลดลง เฉลี่ยชั่วโมงละ ๒ คน สำหรับกลุ่มผู้ติดเชื้อที่พบมากและน่าเป็นห่วง ได้แก่ กลุ่มชายรักชาย ขณะที่กลุ่มหญิง/ชายทั่วไป อัตราการติดเชื้อยังคงที่ อยู่ที่ร้อยละ ๒ ส่วนกลุ่มหญิงบริการ อัตราการติดเชื้อลดลงเหลือร้อยละ ๗ เท่านั้น

                  ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนออกมาช่วยยับยั่งการระบาดของโรค และรับรักษาผู้ติดเชื้อหลายแห่ง แต่ที่โดดเด่นและเป็นที่ยอมรับมากที่สุด คือ พระอุดมประชาทร (อลงกต ติกฺขปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อดีตมหาบัณฑิตสาขาวิศวกรรมเครื่องกลจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ผู้ตัดสินใจละทิ้งทางโลกเพื่อศึกษาพระธรรม และหาแนวทางในการเป็นผู้ให้ ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มีเมตตาธรรมโดยไม่มีเงื่อนไข

                  โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์ ของพระอุดมประชาทรเริ่มมาจากการที่ท่านได้พบคณะทำงานของเครือข่ายพุทธศาสนิกสัมพันธ์เพื่อสังคม ซึ่งเสนอแนวคิดว่าน่าจะมีบ้านพักผู้ป่วยโรคเอดส์ระยะสุดท้าย เนื่องจากมีผู้ป่วยเป็นจำนวนมากที่ถูกทอดทิ้ง ประกอบกับท่านได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยโรคเอดส์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้วพบผู้ป่วยขาดใจตายอยู่ตรงหน้า ทั้งได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการเหลียวแล

                  ดังนั้นในปี ๒๕๓๕ ท่านจึงตัดสินใจเริ่มโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างจิตสำนึกของสังคมให้มีเมตตาและมนุษยธรรมต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัวและสังคม เพื่อให้ได้รับการดูแลช่วยเหลือจนถึงวาระสุดท้าย ได้มีโอกาสสิ้นลมหายใจอย่างสงบ วิญญาณไปสู่สุคติตามวิถีทางของชาวพุทธ

                  โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ในระยะแรก พระอุดมประชาทรต้องเผชิญอุปสรรคปัญหานานัปการ ตั้งแต่รับผู้ป่วยมาดูแลด้วยตนเอง ทั้งซักเสื้อผ้า ขัดห้องน้ำ ถูพื้น ทำกับข้าว ป้อนอาหาร เช็ดตัว บีบนวดทายา เฝ้าไข้ แม้ยามผู้ป่วยสิ้นลมหายใจก็ช่วยจัดการอาบน้ำแต่งกายศพ ท่ามกลางกระแสการคัดค้านของชาวบ้าน บ้างร้องเรียนให้ย้ายโครงการไปที่อื่น บ้างก็ประท้วงด้วยการไม่ใส่บาตร ต่อมาท่านได้พยายามชี้แจงจนชาวบ้านเข้าใจ กระทั่งเริ่มมีอาสาสมัครคอยให้ความช่วยเหลือในหลายด้าน กระนั้นก็ยังมีไม่เพียงพอ กล่าวคือหลายครั้งกลับมีผู้ป่วยมากเกินกว่าจะรองรับได้ หรือประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย แต่ท่านก็ยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการต่อไป ด้วยหลักปรัชญาที่ใช้ในการทำงานเสมอมา นั่นก็คือความเมตตา ท่านจึงเป็นเสมือนแสงธรรม เป็นที่พึ่งสุดท้ายแก่ผู้ป่วยอย่างแท้จริง

                  ต่อมาในปี ๒๕๓๗ โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ได้รับการจัดตั้งเป็นมูลนิธิธรรมรักษ์ จากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานให้ ปัจจุบันมูลนิธิธรรมรักษ์รับภาระดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์กว่า ๑,๐๐๐ ชีวิต โดยได้ขยายโครงการออกไปเป็นโครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ ๒ ที่อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ทั้งยังได้ก่อตั้งบ้านเด็กธรรมรักษ์ บ้านพักคนชรา และโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๓ ขึ้นรองรับเด็กและคนชราที่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียพ่อแม่หรือลูกจากโรคเอดส์
     
                  นอกจากการสร้างที่พักพิงสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์แล้ว ท่านยังได้สร้างชุมชนบำบัดขนาดใหญ่เพื่อเป็นพื้นที่รองรับชีวิต โครงการธรรมรักษ์นิเวศน์ ๒ ถือเป็นเมืองเมืองหนึ่งที่มีทั้งโรงเรียน สำนักงาน โรงพยาบาล มีกิจกรรมให้คนในเมืองนี้ได้ใช้ชีวิตใกล้เคียงกับคนทั่วไป มีครอบครัว มีบ้าน มีงานทำ มีสังคม เหมือนคนปกติ ถือเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนของผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบจากโรคเอดส์อย่างแท้จริง

                  ด้วยค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนที่สูงถึงกว่า ๔ ล้านบาท พระอุดมประชาทรในวัย ๖๐ ปี ยังคงต้องออกบิณฑบาตและรับกิจนิมนต์ทุกวัน เพื่อรับบริจาคเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย และยังดูแลให้กำลังใจผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด แม้จะมีแรงเสียดทานหรือข้อกังขาจากสังคมต่อสิ่งที่ท่านทำอยู่ แต่ท่านก็ยังคงยึดถือศรัทธาในการทำงาน ละวางคำติฉินนินทา ดังที่ท่านมักกล่าวเสมอว่า

                  “คนสรรเสริญ คนนินทา แม้กระทั่งคนที่พยายามจะทำให้เราล้ม มีเป็นธรรมดา ทำให้เราได้รู้ว่า เมื่อเราจะยืนหยัดอยู่อย่างนี้ เราต้องยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแน่ๆ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง และถึงมันจะเกิดขึ้นซ้ำๆ ก็แล้วแต่ แต่เราต้องไม่ตาย ไม่ตายในที่นี้คือไม่ตายจากศรัทธาในสิ่งที่เรามี ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ท่านตรัสว่า จงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท ถ้าแปลเป็นภาษาง่ายๆ ก็คือ จงมีชีวิตอยู่เพื่อทำประโยชน์ให้ถึงที่สุด หลวงพ่อเอง ถ้าต้องเกิดอีก ก็ขอเป็นคนที่เกิดมาเพื่อให้คนอื่น มีใจของการเป็นผู้ให้ แต่ไม่ได้ให้เพื่อให้ตัวเองได้รับการยกย่องสรรเสริญ”

    รางวัล“ชูเกียรติ อุทกะพันธุ์”
                  รางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี ๒๕๔๗ เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่คุณชูเกียรติ ด้วยการเชิดชูหนังสือดี ชนิดที่เป็นแบบอย่างของการทำงานสร้างสรรค์ โดยมุ่งหวังส่งเสริมหนังสือนั้น ให้แพร่หลายไปในวงกว้าง ทั้งกระตุ้นให้นักเขียน สำนักพิมพ์ และหน่วยงานต่างๆ เห็นความสำคัญของการจัดพิมพ์หนังสือดีเพิ่มขึ้น

                  สำหรับปี ๒๕๕๑ เพื่อให้รางวัลมีบทบาทที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงได้เปลี่ยนรูปแบบของรางวัลจากเดิมที่ให้แก่หนังสือดี มาให้แก่บุคคล หรือหน่วยงานที่เป็นแบบอย่างของการทำงานสร้างสรรค์ ซึ่งประกอบด้วยคุณลักษณะดังนี้

                  ๑. ทำงานสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ที่ก่อให้เกิดการพัฒนาชีวิตและสังคมในวงกว้าง

                  ๒. อุทิศตนเพื่อความก้าวหน้าในวงงานของตนอย่างต่อเนื่อง

                  ๓. มีบทบาทที่ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อวัฒนธรรมการเรียนรู้ รวมทั้งต่อสังคมและคุณภาพชีวิตของผู้คน

                  ๔. มีผลงานอันทรงคุณค่าเป็นที่ยอมรับให้ประจักษ์แก่สังคม
     
                  ทั้งนี้เมื่อ วันทื่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๖ - บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) จัดงานประกาศผลและมอบรางวัล “ชูเกียรติ อุทกะพันธุ์” ครั้งที่ ๑๐ ประจำปีพุทธศักราช  ๒๕๕๖  ณ บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) โดยบุคคลได้รับรางวัลในครั้งนี้ คือ พระอุดมประชาทรในฐานะพระผู้เป็นแสงประทีปดวงสุดท้ายของผู้ป่วยโรคเอดส์ โดยยึดพุทธพจน์ที่ว่า “ทุกข์ทั้งหลายของสัตว์โลก พระสงฆ์พึงมีหน้าที่บำบัด” ด้วยการสร้างจิตสำนึกของสังคมให้มีเมตตาและมนุษยธรรมต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ที่ถูกทอดทิ้งจากครอบครัวและสังคม ให้ได้รับการดูแลช่วยเหลือจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เพื่อให้ได้มีโอกาสสิ้นลมหายใจอย่างสงบสุขและไปสู่สุคติตามวิถีทางของชาวพุทธ

                  ในโอกาสที่รางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ได้บรรจบครบ ๑๐ ปี เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเอดส์และวัดพระบาทน้ำพุให้เป็นสถานที่บำบัดผู้ป่วยต่อไป คุณเมตตา อุทกะพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้มอบเงินรางวัลจำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาท พร้อมบริจาคเงินส่วนตัวสมทบเพิ่ม ๕๐๐,๐๐๐ บาท นอกจากนี้บริษัทอมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จำกัด ร่วมบริจาค ๒๐๐,๐๐๐ บาท รวมเงินรางวัลในครั้งนี้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ถวายแด่พระอุดมประชาทร


    • Update : 19/6/2556
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved