หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    สธ. ตั้งเป้า กำจัดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2563

    สธ. ตั้งเป้า กำจัดโรคพิษสุนัขบ้าภายในปี 2563 ผสานความร่วมมือด้านสาธารณสุข มุ่งสู่อาเซียน

    ปัจจุบัน ปัญหาโรคพิษสุนัขบ้ายังคงเป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่ถูกมองข้ามอยู่เสมอ เนื่องจากพาหะของโรคพิษสุนัขบ้ามักมีความใกล้ชิดกับคนมากที่สุด ทำให้เมื่อได้รับเชื้อโรคไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผู้เลี้ยงมักจะปล่อยปละละเลยการรักษาที่ถูกต้องจนทำให้อาการของโรคกำเริบและเสียชีวิตในที่สุด
              ด้วยเหตุนี้ กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค จึงจัดงานสัมมนาการเร่งรัดกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า และมอบรางวัลโรคพิษสุนัขบ้าปี 2555 (MoPH MoAC Rabies Awards) ขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขในกลุ่มประเทศอาเซียนตลอดจนตั้งเป้าการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขภายในปี พ.ศ.2563 หรือปี ค.ศ.2020 ที่จะถึงนี้ โดยมีนายพสิษฐ์เป็นประธานเปิดงาน ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา

              นายแพทย์นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่าประเทศไทยได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์การกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า กลยุทธ์และกิจกรรมที่นำไปสู่การปฏิบัติด้วยการบูรณาการจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและภาคประชาชน กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมควบคุมโรค กรมปศุสัตว์และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ฯลฯ เพื่อดำเนินการตามนโยบายการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้า โดยตั้งเป้ากำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยภายในปี ค.ศ.2020 เพื่อให้สอดรับกับเป้าหมายของประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียนโดยการสร้างพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าของประเทศไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในเรื่องความปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า และจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจมาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น "จากข้อมูลการมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าของผู้ถูกสุนัขกัดพบว่า แต่ละปีจะมีผู้มารับการฉีดวัคซีนมากถึงปีละประมาณ 5 แสนคนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ผู้ที่ถูกสุนัขกัดมีอายุตั้งแต่ 1-90 ปี แต่ที่พบมากที่สุดจะเป็นกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า10 ปี และในจำนวนนี้ร้อยละ 82 พบว่าสัตว์ที่กัดเป็นสุนัขรองลงมาเป็นแมว ร้อยละ 13 ส่วนใหญ่ร้อยละ 77 เป็นสัตว์มีเจ้าของ"

              นายแพทย์นพพร
              กล่าวต่อว่า ประเทศไทยได้เตรียมแนวทางในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วยการจัดทำคู่มือ/แนวทาง เพื่อใช้ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่จำเป็นแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยกรมควบคุมโรคจะเตรียมพร้อมเครือข่ายด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน เพื่อให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีปลอดภัยจากโรคติดต่อที่เกิดจากการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวที่จะเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศ และจะมีการร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่าย One Health เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมและกำจัดโรค เตรียมพร้อมในกรณีที่มีการระบาดของโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน ตลอดจนการเพิ่มความปลอดภัยด้านอาหารที่ได้จากสัตว์ โดยจะมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรฯ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พัฒนาความรู้ของแพทย์และสัตวแพทย์และมีการอบรม FETP ระดับนานาชาติด้วย

              ด้านสัตวแพทย์หญิง อภิรมย์ พวงหัตถ์ รองผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค
              กล่าวว่า สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในปัจจุบันถือว่ามีผู้เสียชีวิตลดลงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2555 มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าจำนวน 4 รายในจังหวัดกรุงเทพฯ ระยอง นครศรีธรรมราช และสงขลา ซึ่งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าได้ดีที่สุด สำหรับวิธีการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าที่ปลอดภัยและดีที่สุดก็คือ การนำสัตว์เลี้ยงไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคและยึดหลัก5 ย. ในการป้องกันการถูกหมากัดได้แก่"อย่าแหย่ อย่าเหยียบอย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง"
              หมายถึง อย่าแหย่ให้สุนัขโมโหอย่าเหยียบหาง ตัวหรือขาสุนัข อย่าแยกสุนัขที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า อย่าหยิบชามอาหารขณะสุนัขกำลังกิน และอย่ายุ่งกับสุนัขนอกบ้านหรือที่ไม่ทราบประวัติและผู้ปกครองควรดูแลเด็กไม่ให้เล่นกับสุนัขตามลำพัง เพื่อป้องกันตัวเองจากการกัดหรือทำร้ายจากสุนัข "สำหรับผู้ที่ถูกสุนัขกัด ควรยึดหลักดังนี้ "ล้างแผล ใส่ยากักหมา หาหมอ ฉีดวัคซีนต่อจนครบ" หมาย ถึง หากถูกสุนัขกัดควรรีบล้างแผลด้วยน้ำและถูสบู่บริเวณแผลให้สะอาด หลังจากนั้นเช็ดแผลให้แห้งแล้วใส่ยารักษาแผลสด ก่อนจะไปพบแพทย์ภายใน 24-48 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลามของเชื้อโรคตามเส้นประสาทในร่างกาย และควรไปพบแพทย์อย่างต่อเนื่องเพื่อฉีดวัคซีนต่อจนครบ"
              การป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้เกิดความเป็นรูปธรรมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อการบูรณาการอย่างยั่งยืนในการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด


    • Update : 2/3/2556
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved