หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    บทความธรรมะ : สอนธรรมแก่คนที่สอนยาก

    บทความธรรมะ : สอนธรรมแก่คนที่สอนยาก

    ทุกวัน ครูบาอาจารย์เฒ่าท่านก็บิณฑบาตตามปกติ เหมือนไม่มีอะไร
    หลายวันต่อมา โยมคนนั้นทำทีมาใส่บาตรเหมือนเดิม มีข้าวและห่อใบตองกล้วยอย่างดี
    ห่อใหญ่เป็นพิเศษ

    ขากลับวัด ครูบาอาจารย์เฒ่าก็ได้พูดกับพระเณรว่า โยมคนที่เอาค้อนตอกสิ่วใส่บาตรให้
    วันนี้เขาเอาอะไรหนอใส่บาตรให้ ห่อใหญ่ผิดปกติ

    เมื่อไปถึงวัด ทุกวันครูบาอาจารย์เฒ่าจะจัดอาหารออกจากบาตร ถ้ามีอาหารส่วนไหนที่ว่าไม่ถูกตามธรรมวินัย เช่น ของนั้นเอ่ยปากขอมา อาหารดิบ ท่านจะเลือกออกไม่ฉัน เมื่อเลือกเสร็จจะแบ่งให้พระเณรได้ฉันทุกรูป

    วันนี้ก็เช่นกัน ท่านเลือกอาหารเสร็จ จะแกะอาหารแบ่งแจกพระเณร แต่ผิดสังเกตว่าวันนี้ได้ห่อใบตองซึ่งห่อใหญ่ผิดปกติ ประกอบกับโยมคนนี้ได้ต่อว่าท่านหลายครั้งแล้ว ท่านเลยค่อย ๆ แกะไม้กลัดห่อใบตองนั้นออก

    ทันใดนั้น สิ่งที่ไม่คาดว่าจะเป็นไปได้ก็เป็นไปได้ เมื่ออาหารประหลาดมีสี่ขากระโดดออกมาจากห่ออย่างรวดเร็ว ด้วยความว่องไวเป็นทุนเดิมของครูบาอาจารย์เฒ่า ท่านรีบตะครุบอาหารประหลาดนั้นไว้ได้พร้อมกับพูดว่า
    "เอ้อ สะมามัวเขาบ่ใส่บาตรให้พ่อน้อเจ้าน้อ เกือบเจ้าไปเข่าหม้อต้มเขาแล้วน้อ" (หากว่าเขาไม่เอาเจ้าใส่บาตรพ่อนะ เจ้าคงจะเข้าหม้อให้เขาต้มเสียแล้ว)
    เสร็จแล้วให้สามเณรนำอาหารประหลาด คือกบนั้นไปปล่อย

    วันต่อมา ท่านออกบิณฑบาตตามปกติ ไม่ผิดสังเกตอะไร โยมคนที่ใส่กบให้ท่านเมื่อวานนี้ก็มายืนมองท่านด้วยอาการขำขำ แต่ท่านทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และต่อมาเมื่อท่านออกไปรับบิณฑบาตตอนเช้า ได้มีคนเขียนบัตรสนเท่ห์ใส่บาตรท่าน

    เมื่อกลับถึงวัด ท่านได้ห่มจีวรพาดสังฆาฏิอย่างดี
    เอาบัตรสนเท่ห์นั้นให้พระเณรอ่านว่า

    "เอ้า ลูกอ่าน อมฤตธรรมแน่นี่ เทวดาเขาใส่บาตรมา หาฟังยากตั๋ว"

    พระเณรได้อ่านไป ตัวท่านได้พนมมือฟังไป ใจความมีว่า

    "พระผีบ้า เป็นพระเป็นเจ้า ไม่มีสำรวม ไม่มีศีล ไม่มีวินัย
    ประจบสอพลอขอของจากชาวบ้าน พระแบบนี้ถึงจะเหาะเหินเดินอากาศได้ ก็ไม่นับถือเป็นพระ
    ให้รีบออกจากวัดไป ถ้าไม่ไปจะเอาลูกตะกั่วมาฝาก"

    พอพระเณรอ่านจบ ท่านได้พนมมือสาธุจนพระเณรได้ยินทุกรูป
    และท่านได้พูดว่า

    "เอาเก็บไว้ใต้แท่นพระบูชาเด้อ โลกธรรมแปดมันนี่เอง
    แต่ก่อนได้ยินแต่ชื่อว่า มีลาภ - เสื่อมลาภ มียศ - เสื่อมยศ มีสรรเสริญ - มีนินทา
    มีสุข - มีทุกข์ โอ๊ยของดีตั๋วนี่ สาธุ...พ่อได้ฟังแล้วแก่นธรรมเพิ่งมามื่อนี่ (วันนี้) เอง เก็บไว้เก็บไว้"

    วันต่อมาท่านได้ออกบิณฑบาตเหมือนเดิม
    โยมที่เอาบัตรสนเท่ห์ใส่บาตรเมื่อวาน ยืนยิ้มหน้ารั้วบ้านที่ท่านเดินผ่าน
    พระเณรสังเกตดูอาการท่าน ก็ไม่เห็นอาการโกรธเคืองโยมคนนั้นแต่อย่างใด


    ๒-๓ วันต่อมา ครอบครัวของโยมคนนั้น เกิดความวุ่นวายขึ้น ทั้งตบทั้งตีกัน
    จนในที่สุดโยมคนนั้นเกิดเป็นบ้าขึ้น อยู่บ้านก็หวาดระแวงว่าจะมีคนมาฆ่า ต้องไปหลบซ่อนอยู่ในป่า
    ถึงญาติพี่น้องจะตามไปเกลี้ยกล่อมอย่างไร ก็ไม่ยอมกลับบ้าน พูดได้คำเดียวว่ากลัวคนจะมาฆ่า


    สุดท้ายญาติพี่น้องต้องนำขันดอกไม้มาขอขมาต่อครูบาอาจารย์เฒ่า
    ถึงท่านจะบอกว่าไม่ได้ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แต่ญาติของโยมคนนั้นก็ไม่เชื่อ
    ผลสุดท้ายครูบาอาจารย์เฒ่าจึงได้โอกาสเทศนาให้ฟังถึงโทษและกรรมต่างๆ ที่ใส่ร้ายคนอื่น
    แล้วบอกให้ญาติของโยมคนนั้นกลับ พอกลับไปถึงบ้าน โยมคนที่ใส่ร้ายท่านก็มีอาการปกติดี

    ชาวบ้านทนดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่ครูบาอาจารย์เฒ่าท่านถูกแกล้งไม่ไหว จึงได้ถามท่านว่า

    "ขอโอกาสขะน้อย ครูบาจารย์บ่เคียด บ่ขมเขาบ้อ ที่เขาแกล้งทุกมื่อทุกเว่น
    แม้นขะน้อยสิหนีมันแต่ดน บ่อยู่ให้เขาแกล้งดนปานนี้ดอก"
    (ขอโอกาสครับ ครูบาจารย์ไม่โกรธเขาเหรอที่เขาแกล้งต่างๆ ทุกวี่ทุกวัน
    ถ้าเป็นกระผมจะหนีไปนานแล้ว ไม่อยู่ให้เขาย่ำยีนานขนาดนี้หรอก)


    และท่านได้พูดว่า
    "ท่าไทบ้านชีทวนบ่ไห้นำ สิบ่หนี" (ถ้าชาวบ้านชีทวนไม่ร้องไห้ตาม จะไม่ยอมหนี)


    ต่อมาโยมส่วนใหญ่เข้าใจเจตนาท่านดีแล้ว ทุกคนให้ความเคารพศรัทธาท่านมากขึ้น
    พ่อใหญ่กัญหา พ่อใหญ่เตือน พร้อมชาวบ้านที่ได้นิมนต์ท่านมาอยู่จำพรรษาที่บ้านชีทวน
    ประสงค์จะได้สร้างวัดถวายท่าน โยมหลายคนได้ถวายที่ดินให้ท่าน บางคนมีที่ดินอยู่ไกลวัด
    แต่อยากถวาย ต้องแลกเปลี่ยนแย่งกันถวายให้ท่าน เมื่อตกลงกันได้แล้ว
    พ่อใหญ่ สารวัตร และกำนันเตือน จึงนำเรื่องไปกราบเรียนครูบาอาจารย์เฒ่าท่าน
    เพื่อนำเรื่องดังกล่าวขอขึ้นจดทะเบียนเป็นวัดให้ถูกต้อง


    • Update : 2/10/2555
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved