หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    อมนุษย์ ที่สุดของโลก

    อมนุษย์ ที่สุดของโลก

    อมนุษย์ของ ดร.แฟรงเกนสไตน์

    คนมีความกลัวสิ่งที่ดูแปลกไปกว่าตน โดยเฉพาะร่างที่ดูประหลาดวิปริตผิดรูป อย่างในสมัยก่อนเวลามีการคลอดแล้วได้ทารกที่รูปร่างผิดปกติขึ้นมาก็จะพากันโจษว่าเป็นตราบาป, กาลกิณี หรือสวรรค์ลงทัณฑ์แก่คู่สามีภรรยานั้น

    ชาวครีตแต่ครั้งโบราณได้สร้างความเชื่อนี้ผ่าน “อมนุษย์” ตนหนึ่งนามว่า “มิโนทอร์” เป็นครึ่งคนครึ่งวัวกระทิง แต่ดันเป็นครึ่งล่างที่เป็นคน ด้านบนเลยดูน่ากลัวน่าพรั่นพรึง


    มนุษย์หมาป่า


    มิโนทอร์ในวัยเด็ก

    กระทิงไฮบริดที่ว่านี้ก็เชื่อกันว่าเป็นผลผลิตมาจากการนอกลู่นอกทางของพระเจ้ากรุงครีต พระมเหสีก็เลยถูกสาปให้หลงรักวัวใหญ่เข้าจนมีพระโอรสเป็นครึ่งคนครึ่งสัตว์เข้า พระบิดาเลยจัดห้องหับให้อยู่ใต้ถุนวังที่สร้างเป็นเขาวงกตไว้ซะด้วยความอับอาย
    จนปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญก็ทราบแล้วว่าตำนานอมนุษย์มิโนทอร์นี้มาจากการที่เกาะครีตมีภูเขาไฟและแผ่นดินไหว ที่เลื่อนลั่นอยู่ใต้ดินเป็นเสียงที่ฮึ่มฮั่มคล้ายสัตว์ดุร้ายที่คึกพิโรธอยู่เบื้องใต้บาดาล

    เป็นกำเนิดตำนานอมนุษย์ที่ผุดขึ้นมาจากความกลัวครับ


    เมดูซ่า


    นรสิงห์

    และวันนี้คอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูนก็จะปลุกตำนานอสุรกายให้คืนชีพมาสู่สายตาแฟนานุ-แฟนกันอีกสักครั้ง ไปเผชิญหน้าอมนุษย์กันได้เลยครับ
    แฟรงเกนสไตน์ ร่างผีดิบคืนชีพได้ร่างนี้อยู่ในนิยายของ แมรี เชลลี เขียนขึ้นมาเมื่อเกือบสองร้อยปีมาแล้ว เป็นอมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นจาก “ซากศพ” โดยนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องนามว่า “แฟรงเกนสไตน์” เริ่มจากการไปขโมยชิ้นส่วนศพมาต่อกันปุปะแล้วช็อตด้วยไฟฟ้าจนมีชีวิตขึ้นมา ทว่าเมื่อเห็นผลงานสยองของตัวเข้าก็เปลี่ยนใจหนีปล่อยให้พ่อผีดิบอาละวาดไล่ฆ่าคน แรกทีเดียวผีดิบแฟรงเกนนี้เมื่อแรกสร้างเป็นภาพยนตร์ก็สร้างความตื่นตะลึงให้ผู้ชมไม่ใช่น้อย


    ยักษ์ไซคล็อป


    กะโหลกช้างแคระที่เชื่อว่าเป็นกะโหลกไซคล็อป

    เคาท์แดร็กคิวล่า เป็นผีดิบดูดเลือด เป็น “แวมไพร์” ประเภทดีหนึ่งประเภทหนึ่งคือดูไม่ง่อยแถมยังมีชาติตระกูลด้วย  เรียกว่าเป็นผีดิบบรรดาศักดิ์ทีเดียวครับ ท่านเคาท์มีอายุยืนนับหลายศตวรรษจากการดื่มเลือดมนุษย์เป็นอาหาร ความสามารถพิเศษคือ “การสะกดจิต” และ “แปลงร่าง” ได้ ใช้สะกดจิตเหยื่อขณะฝังเขี้ยวลงดูดเลือดและกลายร่างเป็นค้างคาวบินหนีไปได้ มีทางเดียวที่จะฆ่าให้ตายคือการตอกลิ่มไม้ที่ร่างขณะหลับและตัดคอให้ขาดจากร่าง
    นรสิงห์ เป็นอมนุษย์ที่มาจากอวตารภาคที่ 4 ของพระนารายณ์ โดยนรสิงห์มีรูปลักษณ์ที่เป็นครึ่งคนครึ่งสิงห์ คัมภีร์วิษณุปุราณะว่าไว้ถึงเหตุที่พระนารายณ์นรสิงหาวตารก็เพื่อช่วยปราบยักษ์ร้ายที่เกะกะระรานทั้งมนุษย์และเทวดาให้สิ้นไป   ด้วยยักษ์พาลที่ว่านี้ได้พรจากพระเจ้าให้แข็งแกร่ง ขนาดมนุษย์หรือสัตว์ร้ายใดก็ทำอันตรายไม่ได้  พระนารายณ์ จึงทรงแสดงองค์ในร่างอมนุษย์เพื่อหยุดทุกข์เข็ญให้แก่ทั้งสามโลกครับ


    หนังหัวเยติที่วัดคุมจุง


    โกเล็ม

    มนุษย์หมาป่า เป็นตำนานสยองขวัญของฝรั่งมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ เมื่อมาถึงยุคกลางที่ยังเชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติและแม่มดก็ยิ่งเชื่อปักใจเหมือนคนไทยเชื่อเรื่องเสือสมิงกับปอบนั่นเองครับ ฝรั่งเชื่อเรื่องนี้จริงจังถึงกับมีวิธีดูมนุษย์หมาป่าที่อาจแฝงกายมาอยู่ในหมู่มนุษย์เช่น หัวคิ้วสองข้างมาติดกันที่สันจมูก, เล็บงอโค้ง, ใบหูอยู่ต่ำและการเดินที่โยนตัวไปมา และถ้าสงสัยไปมากกว่านั้นก็มีวิธีสยองครับคือคว้านเนื้อผู้ต้องสงสัยออกมา(บรื๋อว์) แล้วดูที่แผลแดงๆนั้นว่ามี “ขน” อยู่ข้างใต้หรือไม่ และว่ากันว่ามนุษย์หมาป่านั้นจะออกมาขุดศพคนตายกินในยามวิกาลด้วย
    ยักษ์ไซคล็อป อสูรตาเดียวที่อยู่บนเกาะร้างห่างผู้คน มีชื่อขึ้นมาจนพลุแตกในบรรณพิภพก็ด้วยฝีมือของท่านกวีเอกโฮเมอร์ครับ เรื่องของเรื่องคือยอดขุนพล “โอดิสซีอุส” ผู้เสร็จศึกกรุงทรอย ผู้กำลังแล่นเรือกลับบ้านได้พบพานฝูงยักษ์นี้ขณะแวะพักบนเกาะ แล้วเลยถูกยักษ์ตาเดียวตนหนึ่งจับไว้หมายใจใช้เป็นอาหารว่างล้างขี้ฟัน แต่การณ์กลับพลิกผันไปด้วยไหวพริบของยอดพระเอกทำให้ยักษ์ตาเดียวกลายเป็นตาบอดไปแล้วค่อยๆหนีออกมาจนพ้นได้

    โกเล็ม เป็นอมนุษย์ดึกดำบรรพ์พบในเรื่องเล่าของชาวยิวและมีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล (Psalm 139:16) โกเล็มเป็นร่างที่คล้ายคนถูกสร้างขึ้นมาจากสสารต่างๆ อย่างในคัมภีร์ตาลมุดของยิวกล่าวไว้ว่า “อดัม” มนุษย์คนแรกก็ถูกสร้างขึ้นมาจากอณูธุลีที่มารวมตัวกัน สำหรับโกเล็มก็คล้ายอดัมครับคือสร้างมาจากสสารคล้ายดินเหนียวปั้น ลักษณะเฉพาะของโกเล็มคือ “พูดไม่ได้” ครับ


    เงือก


    เยติ

    นางกอร์กอนเมดูซ่า สามศรีพี่น้องสกุลกอร์กอนเดิมทีเป็นดรุณีแน่งน้อยสวยสะคราญ แต่ครั้นสวยมากไปก็เป็นภัยกับตัว ด้วยเทพีอธีน่าทรง “ไม่อยากเห็นใครเด่นเกิน” จึงประทานคำสาปให้สาวสวยกลายเป็นสาวสยองต้องมีงูเก็งกองติดหนังศีรษะ จะนวดจะสระเข้าซาลอนอย่างใดก็ไม่หาย แถมมีใครมองนางคนนั้นก็ต้องกลายเป็นหินกันหมด จนเมื่อมีเจ้าชายหนุ่มนาม “เพอซีอุส” มาช่วยบั่นหัวให้นั่นละครับคำสาปจึงเป็นโมฆะไป
    มิโนทอร์ ครึ่งคนครึ่งกระทิงที่สิงสถิตวิ่งขวิดตึงตังอยู่ใต้พระที่นั่งวังคนอสซอสบนเกาะครีต อมนุษย์ตัวล่ำนี้มีที่อยู่เฉพาะที่ออกแบบโดยยอดสถาปนิกแห่งยุคนั้นคือ “แดดาลุส (Daedalus)” สู้อุตส่าห์สร้างห้องสลับซับซ้อนเป็นเขาวงกตไว้โดยให้มิโนทอร์อยู่ตรงกลางคอยรับเครื่องสังเวยที่เป็นมนุษย์หนุ่มสาวชาวกรีกที่ต้องถูกส่งมาทุกปี จนที่สุดแล้วก็มีพระเอกมาช่วยปราบอสุรสัตว์นี้ลงได้จนกลายเป็นตำนานครับ

    เยติ กึ่งคนกึ่งวานรคล้ายลิงยักษ์มีขนปุกปุยทั่วร่าง เชื่อกันว่าคุณเยติน่าจะเดินสวยกันอยู่แถบหิมาลัยในส่วนที่เร้นลับราวกับเมืองลับแล และจะโผล่ออกมาให้เห็นบางจังหวะเท่านั้นโดยมักทิ้งรอยเท้าไว้ เป็นที่มาของฉายา “ไอ้ตีนโต (บิ๊กฟุต)” เคยมีภาพยนตร์ที่ถ่ายเก็บไว้ได้แต่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ในแถบอเมริกาเหนือก็มีอมนุษย์คล้ายกันเรียก “ซาสควอช” อยู่ เรื่องเยตินี้ชาวภูเขาเนปาลและทิเบตเชื่อกันมากครับพร้อมกับหลักฐานที่น่าเชื่อคือ “หนังศีรษะเยติ” ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่ วัดคุมจุง ประเทศเนปาล ครับ

    เงือก มีทั้งเงือกชายและเงือกหญิงครับ เลยมิอาจเติม “นาง” ไว้ข้างหน้าได้ มีแม้กระทั่ง “หนูเงือก (Merboy)” คือเด็กหน้าเงือก เอ๊ย...เด็กเงือกวัยละอ่อน โดยเงือกชายจะมีลักษณะเฉพาะคือดูเป็นชายสูงวัยมีหนวดเคราหน้าตาดูมีริ้วรอย (เงือกก็มีตีนกา) ตามตัวเป็นเกล็ดส่วนขาก็กลายเป็นหางปลา (ดูเซ็กซี่พิลึกละครับ) และนิสัยนี่ก็ออกไปทางดุร้ายชอบทำอันตรายมนุษย์และล่มเรือ  นักเดินเรือโบราณจึงไม่ปลื้มเงือกนักครับ

    มีความพยายามค้นหาความจริงกันตลอดมาว่าตำนานอสุรกายเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องหลอกเด็กหรือล้อเล่นเสมอไป ยกตัวอย่างยักษ์ไซคล็อปที่อยู่บนเกาะลึกลับแถบเมดิเตอร์เร-เนียน เมื่อนักวิทยาศาสตร์ไปลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียดแถวเกาะไซปรัส, ครีต, มอลตา และซิซิลี  ก็พบหัวกะโหลกขนาดยักษ์ของสิ่ง มีชีวิต เป็นซากที่ตายมานานนับพันปีแล้วด้วย และที่น่าตะลึงคือบนกะโหลกนั้นมีรูคล้ายลูกตาโบ๋อยู่ตรงกลางแค่รูเดียว!

    แต่เมื่อนำไปพิสูจน์ในเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญแล้วก็ได้คำตอบว่าเพราะมันคือกะโหลกของช้างแคระโบราณก่อนประวัติศาสตร์ที่มีรูเปิดเป็นงวงธรรมดานี่เอง คนยุคโบราณน่าจะเห็นอย่างนี้เข้าเลยเอามาผูกเป็นตำนานยักษ์ไซคล็อป

    ช่วยปิดจ๊อบตอบโจทย์อมนุษย์ได้.


    • Update : 25/9/2555
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved