หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
CC001 400.00  1
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    ผู้หญิงเข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวม

    ผู้หญิงเข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวม

    ผู้หญิงที่เข้าวัดแต่แต่งตัวไม่สำรวมอวดเนื้อหนังให้พระหวั่นไหวต่อไปจะได้รับ ผลกรรมอย่างไร... ?
                 
    ขอบเขตของคำถามที่ว่า ‘แต่งกายไม่สำรวม’ เข้าวัดนั้น อาจทำให้เพ่งโทษคับแคบ ต้องค่อย ๆ มองให้คลุมข้อเท็จจริงตามลำดับครับ
                 
    โดย ความเป็นเพศหญิง มีธรรมชาติดึงดูดใจ หรือล่อตาอยู่ในตัวเองเดิน ๆ ไปถ้าเป็นที่สนใจได้ก็ถือว่ามีรูปสมบัติอันพึงมีสมเพศตนถ้าวันไหนแต่งองค์ ทรงเครื่องได้ถึงขนาดชายหญิงมองเหลียวหลังกันทั่วทุกหัวระแหงก็จะยิ่ง ภาคภูมิเต็มอิ่มประมาณเดียวกับที่นักวิ่งเข้าเส้นชัยได้เป็นคนแรกทีเดียว
                 
    ฉะนั้นผู้หญิงที่รูปร่างหน้าตาดีเกือบทุกคนจึงอดไม่ได้กับการอยากทดสอบเสน่ห์ของตนแล้ว อะไรจะเป็นเครื่องทดสอบได้ดีไปกว่าผู้ประกาศตนว่าสละเรื่องทางเพศแล้วไม่สนใจเพศหญิงอีกแล้ว


    สมัย นี้พระทั่วไปไม่ใช่เครื่องทดสอบที่น่าท้าทายอะไรนักเนื่องจากข่าวฉาวที่ ประดังเข้าหูเข้าตาผ่านหน้าหนังสือพิมพ์แทบไม่เว้นแต่ละวันทำให้ผู้หญิงยุค ใหม่มองพระไม่ต่างจากชายนุ่งกางเกงนอกวัดทั้งหลายหากทำให้สนใจได้ยังไม่ถือ ว่าแน่อะไรนัก เท่าที่ทราบจากคำให้การของสาว ๆ ส่วนใหญ่จะรู้สึกสมเพชและนึกดูถูกพระที่ไม่สำรวมเพ่งเล็งตนด้วยสายตากรุ้มกริ่มตั้งแต่แรกเห็นยิ่งกว่าสมเพชและดูถูกผู้ชายทั่วไปมากเนื่องจากใส่ เครื่องแบบที่ควรจะมีสง่าราศีเยี่ยงภิกษุผู้อิ่มแล้วแต่กลับทำตัวกระจอกไม่ ต่างจากนักโทษที่หิวโซ

    แต่หากกลับเป็นตรงข้ามถ้าเป็นพระชื่อดัง ที่มีคนร่ำลือว่าเป็นผู้สงบ เป็นผู้สำรวมการทำให้ ท่านสนใจได้ นับว่าน่าภาคภูมิใจเป็นพิเศษระดับความอยากให้สนใจก็ต่าง ๆ กันไปตามพื้นความคิดความอ่านของผู้หญิงแต่ละคน
                  เท่าที่ได้ทราบจากปากของผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งตั้งใจสละโลกและเข้าประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ เธอยอมรับว่ารู้สึกผิดและละอายคือพออยู่ ๆ ในวัดไปแล้วอดไม่ได้เห็นชายที่เคร่ง ๆ แล้วอยากลองเสียหน่อยว่าเขาจะทนเสน่ห์เธอไหวไหมในระดับของเธอ ก็จัดได้ว่ามีสติดีและยอมรับตามจริงมากพอที่จะเห็นแม้อาการตั้งใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตน เช่น ชม้ายตาหรือไม่มีอะไรเลยก็เดินด้วยความรู้สึกเป็นเป้าล่อความสนใจของผู้ เคร่งในธรรมธรรมดาผู้หญิงที่เคยถูกจับจ้องมามากจะสำเหนียกรู้ได้ว่ากำลังมี ผู้ชายสนใจตนอยู่หรือเปล่าและเป็นการแอบชำเลืองหรือเพ่งเล็งเขม็งเป็นความ สนใจด้วยความชื่นชมหรือเจืออยู่ด้วยราคะและราคะนั้นถึงขั้นหื่นกระหายหมดรูป หรือว่าเป็นเพียงความวาบหวามแบบอ่อน ๆ


    หากทำได้ครั้งหนึ่งก็นึกยินดี หรือนึกภูมิใจว่าตนแน่ยิ่งพระที่ขึ้นชื่อว่าปลอดกิเลสเท่าไร ยิ่งอยากทำให้สนใจตนมากขึ้นเท่านั้นแต่หากปลูกฝังจิตสำนึกในทางละอายเอาไว้ ก่อนก็จะรู้สึกผิดรุนแรงที่ทำเรื่องไม่งาม ไม่สมควร หรือบางคนยั่วให้สนใจสำเร็จเห็นพระทำตาหวานใส่ ก็พานเกลียดชัง พานสาปส่ง หมดความนับถือไปเลยไม่เหลือเกียรติให้ต้องเคารพกันอีก และไม่คิดหวนกลับไปทำบุญที่วัดนั้นตลอดชีวิตนี่นับเป็นความขัดแย้งในตัวเอง ที่น่าปวดหัว
                  ที่กล่าวมาคือหญิงผู้มีสำนึกในธรรมแล้วนะครับตั้งใจจะเดินบนเส้นทางสีขาวแน่นอน แล้วยังเจอเรื่องมิติมืดภายในตนเล่นงานให้ย่ำแย่เข้าได้ แล้วผู้หญิงธรรมดาโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่เกิดมาพร้อมกับการรับรู้ข่าวคาว ๆ ฉาว ๆ ของพระล่ะ?


    เท่าที่ทราบแนวโน้มของสาวรุ่นใหม่จะไม่มีความรู้สึกเกี่ยวกับเครื่องแบบที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับเขตวัดถ้าเพิ่งเข้าวัดใหม่ ๆ หรือนาน ๆ เข้าวัดทีจะนึกไม่ถึงว่าเสื้อยืดและกางเกงรัดรูปที่‘แต่งกันเป็นปกติ’ นั้นอาจมีความยั่วตายวนใจ และรบกวนตบะของพระสงฆ์ได้ง่าย ๆ
                  แต่จะมีสาวอีกกลุ่มหนึ่ง ที่จงใจแต่งตัวหวือหวาขัดกับสถานที่ให้เป็นที่สนใจของคนอื่น ไม่ว่าจะพระเณรหรือฆราวาสด้วยกันเข้าหลักถ้าอยากเด่นต้องทำตัวให้ไม่มีใคร เหมือน เขาหลิ่วตาเราอย่าหลิ่วตามเขาแต่งขาวเราต้องแต่งดำ ผู้หญิงอื่นปกปิดเราต้องเปิดโปง
                  เอาเฉพาะเจตนาอันหนักแน่นข้อนี้นะครับถ้าแต่งตัวโป๊เพื่อล่อตาล่อใจเพศตรงข้าม ในวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งทำด้วยความภาคภูมิใจและไม่สำนึกผิดภายหลังหญิงนั้น ได้ชื่อว่าเพาะเชื้อแห่งความเป็นธิดาพญามารไว้ในตนแล้ว

    การทำบุญสร้างความเป็นธิดาพญามารมีหลายระดับถ้าแจกแจงละเอียดยิบคงเป็นปึก ในที่นี้ขอแยกเป็นคร่าว ๆ ให้เห็นภาพง่ายสุดคือ

                  ๑) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ก็ทำด้วยน้ำจิตเลื่อมใสของที่นำมาถวายเป็นการจัดหาของตนหรือตั้งใจร่วมสวด หรือฟังเทศนาธรรมด้วยอาการสำรวม ก็เป็นบุญที่มีกำลังมากหากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังอ่อน แค่ในระดับล่อตาล่อใจไม่ถึงขั้นรู้สึกว่าถ้าสึกพระได้ถือว่าเจ๋ง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสดึงดูดใจแต่เจือด้วยปัญหาร้อนใจในการคบเพื่อนต่าง เพศ เพราะใคร ๆ ก็จ้องตาเป็นมันและมักเข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ทางเพศเป็นหลักแต่กว่าจะกอบ โกยประโยชน์จากเนื้อหนังไปได้เต็มอิ่ม กว่าจะรู้สึกจืดชืดก็เนิ่นนานแรมปี
                  เมื่อ ตายไป กำลังของบุญอาจเป็นแรงฉุดขึ้นสวรรค์ถ้าจิตไม่ผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในหมู่เทวดาที่เสวยบุญรื่นเริงเช้าค่ำตามปกติ แต่หากจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัดก็จะไปอยู่ในหมู่เทวดาฝ่ายมาร มีใจขวางผู้ปรารถนาความหลุดพ้นเห็นใครประพฤติพรหมจรรย์เก่ง ๆ ก็อาจทุรนทุรายอยากลองของเช่นลองมาเข้าฝันแสดงภาพงามวิจิตรล่อใจเสียหน่อย ดูซิว่าจะเผลอหลุดฟอร์มไหมพร่ำละเมอเพ้อพกถึงนางในฝันได้ไหม
                  ๒) เมื่อถึงเวลาทำบุญ ใจก็ยังวอกแวกคอยสังเกตว่ามีใครมองตนไหม เมื่อร่วมสวดมนต์กับคนอื่นก็ไม่ตั้งใจเมื่อฟังเทศนาธรรมก็ฟุ้งซ่านเรื่องแฟน อย่างนี้เป็นบุญที่มีกำลังอ่อนและเจืออยู่ด้วยราคะ หากเสน่ห์ที่นำมาโปรยในวัดมีกำลังกล้าแข็งถึงขั้นเห็นว่าถ้าสึกพระได้นับ เป็นยอดหญิง อย่างนี้มีวิบากเป็นกระแสน่ารังเกียจไม่น่าเข้าใกล้ ไม่น่าจับต้อง ตัวไม่เหม็นแต่ก็เหมือนเหม็นอย่างไรบอกไม่ถูกผู้ชายเข้ามาด้วยความหน้ามืด สถานเดียวและมักเป็นประเภทที่เสพสมครั้งเดียวแล้วเบื่อทันทีอยากทิ้งขว้าง เหมือนกระดาษชำระที่ใช้แล้วทันที แทบไม่มีแก่ใจอยากแตะต้องต่อเว้นแต่รอให้หน้ามืดอีกทีคราวหลัง
                  เมื่อตายไปกำลังของบาปมักรั้งลงต่ำถึงอบายภูมิ อาจไปเป็นเปรตจำพวกอสูรยิ่งถ้าจิตผูกพันกับการยั่วยวนคนในวัด ก็จะอยู่ในเขตอสุรกายใจทรามชอบเข้าฝันพระหรือชายดี ๆ แสดงเป็นแต่ภาพลามกจกเปรต ล่อให้คิดถึงกามารมณ์และมักเป็นกามารมณ์ที่ผิด หรือสถานเบาถ้ามีวาสนาได้กลับมาเป็นมนุษย์ก็อาจมีความต้องการทางเพศสูง อย่างที่เรียกกัน (แบบผิดความหมายเดิม)ว่าเป็นฮิสทีเรีย อยากมีอะไรกับผู้ชายไม่เลือกหน้า เป็นต้น


    • Update : 10/8/2555
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved