|
|
๕ก.พ.๕๕วัดหูช้างจัดสวดภาณยักษ์
๕ ก.พ.๕๕ วัดหูช้างจัดสวดภาณยักษ์
การสวดภาณยักษ์เริ่มมีขึ้นในประเทศไทย เข้าใจว่ามีมาตั้งแต่สมัยของพ่อขุนรามคำแหง รับมาจากพระสงฆ์ทางลังกาสายเถรวาท โดยเริ่มเข้ามาทางด้านจังหวัดนครศรีธรรมราช จนถึงสมัยของรัชกาลที่ ๕ เสด็จนครศรีธรรมราชจึงได้นำมาจัดเป็นพิธีประจำปีสำหรับพระนครเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พระนครและแก่พระเจ้าแผ่นดิน เพราะมีความเชื่อกันมาว่า บ้านเมืองหนึ่งๆ จะมีผีที่ดี และผีที่ไม่ดีอาศัยอยู่ ผีที่ไม่ดีเรียกว่า ภูติผีปิศาจ ส่วนผีที่ดีเรียกว่า เทพยดา และที่บ้านเมืองมีเหตุเพทภัยต่างๆ เกิดขึ้น ก็เป็นเพราะเกิดจากภูติผีปิศาจ กลั่นแกล้งบันดาลให้เป็นไป ดังนั้นเมื่อสิ้นปีหนึ่งไป จึงได้ทำพิธีสวดภาณยักษ์ เพื่อเป็นการขับไล่ภูตผีกันสักครั้ง
การสวดภาณยักษ์ เป็นการสวดที่มีน้ำเสียงกระแทกกระทั้นดุดันเกรี้ยวกราด และน่ากลัวจึงได้เรียกว่าสวดแบบภาณยักษ์นั่นเอง ใช้สวดเพื่อขับไล่ยักษ์หรือภูตผีต่างๆ การสวดทั้งสองแบบนี้ได้นำมาจาก อาฎานาฏิยสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่อยู่ในพระไตรปิฎกว่าด้วยเรื่องของยักษ์ต่างๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงปราบ มาดัดแปลงทำนองให้ดุดันและโหยหวน เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป มีการจุดปืนใหญ่สมทบ เพื่อให้ภูตผีปิศาจเกิดความกลัวจะได้หนีไป แต่ในปัจจุบันใช้การจุดประทัด หรือ พลุแทน
บางตำนานก็บอกว่าการสวดภาณยักษ์นั้น เกิดจากเมื่อครั้งที่พระพุทธองค์ท่านได้ทรงโปรดเทศนาธรรม ให้พญายักษ์ที่มีชื่อว่า ท้าวเวสสุวัณ ซึ่งเป็นเจ้าแห่งภูตผีปิศาจทั้งหลาย แค่เอ่ยชื่อเพียงอย่างเดียว พวกภูตผี ปีศาจที่มีฤทธิ์เดชทั้งหลายยังต้องเกรงใจ ไม่กล้ายุ่งเกี่ยวต่อกรด้วย หลังจากที่ยักษ์ท้าวเวสสุวัณได้ฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้า ก็บังเกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมขึ้น จึงได้แต่งพระคาถาน้อมถวายแก่พระพุทธเจ้า ซึ่งก็คือคาถาสวดภาณยักษ์นั่นเอง เมื่อสวดคาถาบทนี้เมื่อใด เหล่าภูตผีปิศาจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็ต้องยอมศิโรราบให้ เพราะเกรงกลัวในบารมีของท่านท้าวเวสสุวัณ พากันเผ่นหนีกันจ้าละหวั่นไปกันหมด
สำหรับวัดที่จัดพิธีสวดภาณยักษ์ที่เป็นตำนาน โดยได้จัดต่อเนื่องมากว่า ๕๐ ปี คือ วัดหูช้าง ต.คูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยในสมัยที่พระครูกิตตินนทคุณ หรือที่ชาวบ้านทั่วไปขนานนามท่านว่า “หลวงพ่อกี๋” วัดหูช้างยังมีชีวิตอยู่ใครมีเรื่องเดือดร้อนหรือต้องการให้ท่านขจัดปัดเป่าโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ แม้ปัจจุบันท่านจะมรณภาพไปนานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ชื่อเสียงและเกียรติคุณของท่านก็ยังเป็นที่กล่าวขาน ทั้งนี้พระครูสุวรรณโชติวุฒิ หรือ หลวงพ่อตี๋ เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมเพียงรูปเดียวและมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่กี๋ ยังคงเมตตาช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนทุกรายเช่นเดียวกับหลวงพ่อกี๋
อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์ที่ ๕ กุมภาพันธ์นี้ ทางวัดได้จัดให้มีการฟังเทศน์และสวดภาณยักษ์ใหญ่แบบโบราณ โดยจะเริ่มพิธีสวดนพเคราะห์ตามกำลังวัน เวลา ๙.๐๐ น ส่วนสวดภาณยักษ์ใหญ่แบบโบราณเริ่มเวลา ๑๓.๓๐ น. เป็นต้นไป
|
Update : 31/1/2555
|
|