หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    หลวงปู่สอนศิษย์

     

    หลวงปู่สอนศิษย์

    โสดาของทายก

    คณะอุบาสกอุบาสิกาและทายกของวัดหนึ่งได้พร้อมใจกันมากราบหลวงปู่ ด้วยความปีติใจที่มาปฏิบัติค้างคืนที่วัด ๑ คืน หลวงปู่ได้เมตตาให้ธรรมะกับคณะทายกนี้ว่า

    เออ

    มาวัดก็เป็นโสดาเต็มวัด เต็มโบสถ์ เต็มศาสนา พอออกจากวัดก็เป็นบ้านกู ของกูหมด ! โสดาหายหมด วิ่งมาวัดหมด โสดาเฉพาะมาอยู่วัดคืนเดียว วันเดียว พอกลับไปบ้านเป็นคนหมด

    ระวังจะโดนม้าเตะ

    หลวงปู่ท่านเมตตาให้ธรรมะกับชาวบ้านที่ตั้งใจมาขอหวย ชะรอยคนกลุ่มนี้คงจะเป็นนักพนันตัวยง หลวงปู่ได้เทศน์ว่า

    คนดีต้องหนีบ้าซิ !

    บ้ากับบ้า ก็ไปต่อยกันซิ

    สนามมวยต่อยกัน ไม่รู้จักเจ็บจักตาย

    สนามม้าก็เหมือนกัน

    สร้างเสร็จหมดเงินตั้งแสนตั้งล้าน

    มีทุนเท่าไร ไปทุ่มเทในสนามม้าหมด

    เราบอกมันตรง ๆ ไม่เชื่อหรอก

    ไปสนามม้าบ่อย ๆ ระวังม้าเตะนะ

    !

    ถุงขาดนะ กระเป๋าขาดนะ เงินหมดเลย เหลือแต่ร่างกาย

    ห่วงและหวง

    มีโยมคนหนึ่งมาทำบุญที่วัดกลางชูศรีเจริญสุข แล้วก็ไปกราบหลวงปู่ หลวงปู่ยื่นกระป๋องแป้งให้ แล้วบอกให้โยมคนนั้นให้เอาไปโรยให้หมาขี้เรื้อนในวัดตัวหนึ่ง แล้วท่านก็บอกว่า

    หมาตัวนี้ มันเคยเป็นคนสร้างวัดมาก่อน มันเคยเป็นเจ้าของวัด มันรักวัดมาก ใครมาทำให้วัดสกปรกมันจะเห่า

    ขนาดเป็นหมาก็ยังรักวัดอยู่ ห่วงและหวงวัด หญิงคนนั้นก็เลยคิดว่า หลวงปู่คงให้สติว่า

    เวลาทำบุญ ก็อย่าห่วงบุญของตนเอง

    สำนึกบาป

    หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า ขณะมี่ท่านนั่งปฏิบัติยู่ในถ้ำ ก็มีตะขาบตัวหนึ่ง ไต่ขึ้นภายในสบง ผ่านเอว แล้วผ่านหลังท่านขึ้นไป ท่านจึงต้องกลั้นลมหายใจ ปิดหู ปิดตา ปิดปากหมด เจ้าตะขาบจึงเข้าไม่ได้

    หลวงพ่อสงฆ์เห็นหลวงปู่นั่งหลับตา มีตะขาบตัวใหญ่มาก ขึ้นไปขดอยู่กลางศีรษะของท่าน หลวงพ่อสงฆ์ต้องเอาผ้าอาบของท่านหย่อนลงให้ตะขาบไต่ขึ้นผ้า แล้วจึงเอาไปปล่อย พอรุ่งเช้า หลวงปู่ท่านไปดูที่หน้าถ้ำ เห็นมันกัดตัวมันเองจนขาดเป็นท่อน ๆ กองอยู่ที่ปล่อยนั่นเอง

    สงสัย ตะขาบมีนคงจะสำนึกบาป มันก็เลยกัดตัวมันเองจนตาย

    ด่วนพิเศษ

    หลวงปู่ท่านเอาของไปแจกที่ภาคใต้ คราวที่ถูกพายุเกย์ ขณะรถที่หลวงปู่นั่งไปนั้นกำลังแล่นไปตามถนนด้วยความเร็วสูงเกินอัตรา จึงถูกตรวจจับเพราะฐานที่ขับรถเร็ว หลวงปู่นั่งอยู่ในรถได้ยินการโต้ตอบกัน หลวงปู่ท่านก็เลยพูดกับตำรวจว่า

    วิ่งเร็วยังไง ? วิ่งตั้งสองวันแล้วยังไม่ถึงที่แจกของเลย !

    ตำรวจผู้นั้นหัวเราะรับ ทำความเคารพหลวงปู่ แล้วก็ปล่อยรถของหลวงปู่ไป

    อดีตเมื่อ ๕๐๐ ชาติที่แล้ว

    ดิฉันพาเพื่อนบ้านอายุ ๓๐ ปีกว่า ๆ ไปกราบหลวงปู่ เพราะเห็นว่าเพื่อนบ้านมีทุกข์ เมื่อกราบแล้ว หลวงปู่ก็ชี้หน้าบอกว่า

    โยมนี่ เคยเป็นแม่ของอาตมาเมื่อ ๕๐๐ ชาติที่แล้ว

    หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ คงจะเสียใจว่า ตนเองยังไม่เคยได้ธรรมะอะไรเลย ไม่รู้จักธรรมะ และก็อาจจะตื้นตันดีใจ ที่ตนเองเคยเป็นถึงแม่ของหลวงปู่ แต่ตนเองก็ยังวนเวียนอยู่ในความทุกข์ตลอดเวลา เธอร้องไห้ แล้วก็ถามหลวงปู่ว่า

    ดิฉันเคยเป็นแม่หลวงปู่ แล้วทำไมดิฉันจึงยังต้องมีความทุกข์อยู่อย่างนี้เจ้าคะ

    หลวงปู่ตอบว่า

    ก็มัวแต่ไปอาศัยท้องคนอื่นเกิดบ้าง แล้วก็ให้คนอื่นมาอาศัยเกิดบ้าง ก็เป็นอย่างนี้แหละ

    ไม่ติดอะไรเลย

    มีคณะทัวร์มากันหลายคันรถ มากราบขอพรหลวงปู่ คณะนี้มีทั้งพระและโยมมาด้วยกัน ตอนหนึ่งหลวงปู่ได้ให้ธรรมะว่า

    อยู่วัดอย่าติดวัดนะ

    อยู่ถ้ำก็อย่าติดถ้ำนะ

    ติดที่ไหน

    อยู่บ้านอย่าติดบ้านนะ ? เป็นกิเลสที่นั่น

    กรรมฐานอย่าเลือกกิน

    มีพระปฏิบัติธุดงค์กรรมฐานกลุ่มหนึ่ง มากราบหลวงปู่เพื่อขอโอวาท หลวงปู่ก็ให้โอวาทในตอนหนึ่งว่า

    จะกินแล้ง กินแห้ง กินหวาน กินคาว

    มันก็เป็นอาหารทั้งนั้น

    ข้าวเจ้าจะไปเลือกทำไม

    ข้าวเหนียวจะไปเลือกทำไม ?

    พระกรรมฐานอย่าเลือกกิน ?

    กินข้าวสุกต่างหาก อย่ากินข้าวดิบ

    เดี๋ยวกินเจ เดี๋ยวกินเนื้อ

    เดี๋ยวกินอย่างโน้น กินอย่างนี้

    นั้นกินตามสมมติ

    กินอาหารตามมีตามได้ ไม่ใช่กินผัก กินเนื้อ

    สามีของข้า ใครอย่าแตะ

    มีหญิงคนหนึ่งมาหาหลวงปู่ด้วยความกลัดกลุ้มใจ ทุกข์ใจอย่างแสนสาหัส เนื่องด้วยสามีแอบไปมีเมียน้อย ก็มากราบหลวงปู่ แล้วก็เล่าให้หลวงปู่ฟัง หลวงปู่ก็พูดว่า

    คนไทยนี่ อะไร ๆ ก็ไม่เสียดายหรอ ในโลกนี้ ให้หมดนะ อามิสน่ะ !

    แต่มีข้อแม้ว่า

    ...

    ผัวดิฉันนะ

    ! ใครแตะไม่ได้นะ !

    เอาตายเชียวนะ

    จะเอาผัวไปด้วย ปัทโธ่

    ! จะไปนิพพาน !

    เขาไปนิพพาน เขาเอาผัวเอาเมีย

    ไปด้วยที่ไหนกัน

    ?

    เขาเอาธรรมะไปต่างหากล่ะ

    !

    ฉันเกลียดแม่

    หญิงคนหนึ่งเล่าให้หลวงปู่ฟังว่า เธอเกลียดแม่ของเธอมาก เพราะแม่ไปมีผัวใหม่ และแม่ไปรักผัวมากกว่าลูก หลวงปู่จึงบอกว่า

    ให้เอาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรา

    ที่เขาอุ้มท้องเรามา ๙ เดือน

    เราตอบแทนได้คุ้มค่าหรือเปล่าล่ะ

    มารดาบิดานั้นเป็นหลายอย่าง

    เป็นบุพการี แก่บุตรธิดาด้วย

    เป็นเทวดาธรรมด้วย อุปถัมภกธรรมด้วย

    มารดา บิดาเป็นเนยยะบุคคล

    เป็นอรหันต์ของลูกสาว ลูกชาย

    อย่าข้ามสำรับท่าน อย่าข้ามหัวพระ

    ให้พระทั้งสององค์

    ก่อนให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้อย่างนั้น

    แม่ไปมีผัวใหม่ก็เรื่องของเค้าซิ

    หลวงปู่บอกให้รักแม่นะ

    หญิงคนนั้นก็นั่งร้องไห้ น้ำตาไหล

    อยากขอของดี

    ความศรัทธาของญาติโยมที่มีต่อพระก็มีหลายแบบ ญาติโยมบางพวกก็ยังอยู่เฉพาะแต่กระพี้ คือ เช่นในครั้งหนึ่ง หลวงปู่ท่านไปธุดงค์ในถ้ำ ขากลับมา พวกญาติโยมก็พากันจะไปขอของดีจากท่าน เพราะเขาเข้าใจว่า พระธุดงค์ที่ออกมาจากถ้ำต้องมีของดีแน่ ก็ถามหลวงปู่ว่า

    มีของดีอะไรมาฝากบ้าง

    หลวงปู่บอกว่า

    ก็ได้ธรรมะมาฝากแล้วไงล่ะ

    หลงเขา หรือเปล่า

    ในวันหนึ่ง มีผู้แสวงหาธรรมะกลุ่มหนึ่ง เดินทางจากจังหวัดนนทบุรีเพื่อจะไปกราบหลวงปู่ เพื่อเป็นสิริมงคลและถามธรรมะข้อข้องใจ ทั้งคณะก็ทราบแล้วว่า หลวงปู่ท่านให้ธรรมะกับญาติโยมจนหมด บอกทางไว้หมดแล้ว ขึ้นอยู่กับโยมว่าจะปฏิบัติตามท่านได้หรือไม่ ไปถึงก็ได้กราบท่าน ท่านก็นั่งอยู่บนเตียง นั่งเฉย โยมผู้หญิงคนหนึ่งก็เลยถามหลวงปู่ขึ้นว่า

    หลวงปู่คะ คนเราเกิดมาทำไมคะ ?

    หลวงปู่บอกว่า

    ถ้าไม่พ้นเกิด ไม่พ้นตาย แล้วจะเกิดมาทำไม

    เกิดตายเป็นตัวหลง ตัวโมหะ !

    เกิดเป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์ จะเอาอีกหรือ

    ?

    เกิดก็ไม่เที่ยง ตายก็ไม่เที่ยง

    แล้วเราจะมาเกิด จะมาตายทำไม

    ?

    กายนี้เขาทดสอบเราว่า

    หลงเขาหรือเปล่า

    ถ้าหลงกายนี้ก็เกิดบ่อย ตายบ่อย เป็นทุกข์บ่อย ๆ นะ

    มีอะไรก็ปวดอันนั้น

    มีหญิงชราผู้หนึ่งเดินทางมาจากจังหวัดในภาคเหนือและได้มีโอกาสมากราบหลวงปู่ หญิงชราคนนี้แกก็ไประบายความกลุ้มใจของแกให้หลวงปู่ฟังอย่างยืดยาวว่า

    ดิฉันชอบเป็นโรคปวดศีรษะ ปวดมากเลยเจ้าค่ะ

    หลวงปู่ก็ฟังนั่งเฉย ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว นั่งนิ่งมองดูอยู่เฉย ๆ หญิงชราผู้นั้นเห็นหลวงปู่ไม่พูดอะไร คงผิดหวังก็เลยขอลากลับ หลวงปู่จึงพูดว่า

    ปูไม่มีหัว ป ันปวดหัวหรือเปล่า ?

    งูไม่มีขา งูมันปวดขาหรือเปล่าล่ะ

    ?

    ปู่ของพระพุทธเจ้า

    โอกาสว่าง ๆ หลวงปู่มักจะคุยเรื่องเก่า ๆ ให้กับพระที่รับใช้ใกล้ชิดอยู่เป็นประจำ หลวงปู่ท่านเล่าให้ฟังว่า

    ตัวท่านเองเคยเกิดมาทันในสมัยพุทธกาลที่อินเดีย โดยเกิดเป็นอุบาสก มีโอกาสได้ช่วยงานศพพระพุทธเจ้า และเวียนเกิดเวียนตายอยู่ฝั่งลาวบ้าง ฝั่งไทยบ้าง เป็นพระบ้าง เป็นเณรบ้าง เคยเป็นพระผู้ชำระพระไตรปิฎกหลายต่อหลายครั้ง แต่ส่วนมากท่านจะอายุไม่ใคร่ยืน มีชาตินี้ที่อายุยืน

    พระองค์หนึ่งก็เลยถามหลวงปู่ว่า

    หลวงปู่ครับ ปู่ของพระพุทธเจ้าชื่ออะไรครับ ?

    หลวงปู่ตอบว่า

    พุทโธ่ ! จะจำได้อย่างไร ? จำไม่ได้หรอก มันนานแล้ว ผู้พูดไม่ได้จำ ผู้ถามจำเอาเองก็แล้วกัน

    ธรรมะของใคร

    ญาติโยมคณะหนึ่ง เป็นกลุ่มที่ชอบแสวงหาหลวงปู่ หลวงพ่อองค์ไหน ๆ ที่ว่าดัง เทศน์ดี ปฏิบัติดี ธรรมะดี โยมคณะนี้ก็จะพากันไปกราบไหว้ ไปฟังเทศน์และปฏิบัติ ระหว่างทางก็พูดคุยวิจารณ์กัน เรื่องธรรมะของอาจารย์องค์นั้นองค์นี้ เมื่อมาถึงวัดหลวงปู่ ทุกคนก็เข้าไปกราบหลวงแล้วก็อยากจะฟังเทศน์ของหลวงปู่บ้าง หลวงปู่ก็พูดว่า

    ไม่ใช่ธรรมะของเรานะ

    ธรรมะของเราจะมีอะไร

    ธรรมะของพระพุทธเจ้า ?

    วัยรุ่นวุ่นรัก

    มีกลุ่มวัยรุ่นหญิงชายกลุ่มหนึ่ง มาเที่ยวที่วัด ได้ฟังกิตติศัพท์หลวงปู่ ก็เข้าไปกราบหลวงปู่ หลวงปู่ท่านก็ให้โอวาทวัยรุ่นกลุ่มนี้ว่า

    นั่นแหละผลของการแต่งงานล่ะ อย่าไปทำเหตุเข้านะ

    หนุ่มคนใด ไม่อยากมีลูกก็อย่าไปแต่งงาน สาวตนไหน ไม่อยากมีลูก ไม่อยากอุ้มท้อง ๑๐ เดือน ก็อย่าไปแต่งงานเข้านะ แต่งงานเข้าไม่ได้นะ เมื่อไปก่อเหตุ ผลมันก็ท้องโต ๑๐ เดือนนะ

    จะเลือกอย่างไหนดี

    วันหนึ่ง หลังจากว่างจากรับญาติโยมแล้ว อุบาสิกาคนหนึ่งก็คุยให้หลวงปู่ปังเรื่องนางงาม หลวงปู่ก็เปรย ๆ ขึ้นมาว่า

    รูปเหม็น ๆ เน่า ๆ มรแต่ขี้

    พระเอกนางเอกไม่มีหรอก

    มีแต่พระเอกขี้ นางเอกขี้

    ขี้เต็มตัว เต็มหู เต็มตา

    จะไปเอานางเอกที่ไหน

    เกิดมา ๙๐ ปีแล้ว ไม่เห็นมีนางงาม ?

    เลือกเอาแต่ธรรมะซิ

    อวดกิเลส

    ลูกศิษย์ของหลวงปู่ ชี้ให้หลวงปู่ดูวรรณกรรมบนกระจกท้ายรถ เขียนไว้ว่า

    ทำชั่วได้มีมีถมไป

    ทำดีได้ดีมีที่ไหน

    หลวงปู่บอกว่า

    อ้ายนั่นน่ะ !

    มันไม่รู้จักพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มันเอาแต่ข้อวัตรของมัน มันเอากิเลสมาอวด ปุทโธ่

    ! พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดอย่างนั้น

    แย่งกระดูกกัน

    หลวงปู่ท่านเปรย ๆ ขึ้นในวันหนึ่งถึงพวกญาติโยมที่ไปเผาศพพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ก็ชอบที่จะขอพระธาตุกันมาเก็บเอาไว้ มากน้อยแล้วแต่ที่จะหาได้ หลวงปู่ท่านพูดว่า

    ธรรมะมันไม่เอา มันจะเอาแต่กระดูก จะรบราฆ่าฟันกันก็เพราะกระดูก น่าสังเวช !

     

    หลวงปู่บุดดา ถาวโร

    ตีพิมพ์ในนิตยสารธรรมจักษุ ปีที่ ๗๘ ฉบับที่ ๑๑ ประจำเดือนมีนาคม ๒๕๓๘


    • Update : 28/4/2554
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved