หน้าแรก สมาชิก รายการวัตถุมงคล ตะกร้าวัตถุมงคล วิธีชำระวัตถุมงคล วิธีบูชาวัตถุมงคล ประวัติวัด ติดต่อวัด เว็บบอร์ด
สมาชิก Log in
อีเมล์
รหัสผ่าน
สมัครสมาชิกใหม่
ลืมรหัสผ่าน






ค้นหาวัตถุมงคล
 
 
 
หมวดวัตถุมงคล
  พระบูชา
  พระเหรียญ
  พระผง
  เครื่องราง
วัตถุมงคลของคุณ
รหัสวัตถุมงคล ราคา จำนวน
ยังไม่มีวัตถุมงคลอยู่ในตะกร้า
  • ชำระค่าวัตถุมงคล
  • แก้ไขรายการวัตถุมงคล
  • วิธีสั่งบูชาวัตถุมงคล
  •  

    พรหมวัดช่องแสมสาร'เทพ'ทั้งพุทธ-พราหมณ์

    พระพรหมวัดช่องแสมสารกับ...เทพในศาสนาพุทธ-พราหมณ์ : เรื่อง / ภาพ โดยไตรเทพ ไกรงู

                   วัดช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งมีพระครูวิสารทสุตรากร หรือ พระมหารัตนะ เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวง เป็นเจ้าอาวาส นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องคนเดินทางมาลอดโบสถ์ โดยมีคติความเชื่อว่า "ผู้ใดได้ลอดใต้โบสถ์จะพ้นจากภยันตราย ปราศจากสิ่งอัปมงคลทั้งปวง ล้างสิ่งอัปมงคล ถอนคุณไสย มนต์ดำขณะเดียวกันก็มีความเชื่อด้วยว่า แม้เอาหน้าผากจรดพื้นอุโบสถ สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดีได้"

                อย่างไรก็ตาม เมื่อกลางปี พ.ศ.๒๕๕๔ ได้มีคณะผู้มิจิตศรัทธาร่วมบุญกันสร้างท้าวสหบดีพรหม (มหาพรหม) ขนาดหน้าตักกว้าง ๗.๘๘ เมตร ซึ่งได้พระกอบพิธีอัญเชิญประดิษฐานบนแท่นศิลา ณ วัดช่องแสมสาร เมื่อวันอังคารที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา โดยมีพระพรหมสุธี หรือ เจ้าคุณเหนาะ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เจ้าคณะภาค ๑๒ กรรมการมหาเถรสมาคม มาเป็นประธานพิธีเบิกพระเนตร
           
                     พระมหารัตนะ บอกว่า ในพระพุทธศาสนานั้น ยอมรับว่าพระพรหมเป็นเทพที่ปกป้องพระพุทธศาสนา เข้ามาเกี่ยวข้องกับพระบรมศาสดาหลายหนด้วยกัน เห็นง่ายๆ ก็คือ การอาราธนาให้แสดงธรรมเป็นเจ้าแรก ดังปรากฏในบทอาราธนาเทศน์ว่า “พรหมาจโลกาธิปติ สหัมปติ” อันเป็นการระลึกถึงการอาราธนาธรรมของพระสหัมบดีพรหมนั่นเอง
           
                     อีกทั้งหลักธรรมในพระพุทธศาสนา มีธรรมข้อหนึ่ง ๕อ พรหมวิหาร ซึ่งหมายถึง ธรรมะที่พระพรหมถือปฏิบัติเป็นประจำ และผู้ที่จะได้ไปเป็นพรหมก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้น คือ ๑.เมตตา คือ มีความสงสารและเห็นใจผู้ที่ด้อยกว่าและร้องขอความช่วยเหลือ ๒.กรุณา คือ ให้การสงเคราะห์ตามควรแก่กรณีที่จะทำได้ ๓.มุทิตา คือ ให้ด้วยความบริสุทธิ์ไม่หวังในสิ่งตอบแทนภายหลังและให้โดยทั่วกัน และ ๔.อุเบกขา คือ ความเที่ยงธรรมไม่ลำเอียงเห็นแก่หน้าหรือการให้ความเสมอภาคนั่นเอง
           
                     นอกจากนี้แล้ว ในคติพุทธศาสนา พระพรหม เป็นชาวสวรรค์ชั้นสูงขั้นหนึ่งที่สูงกว่าเทวดาทั่วไป เรียกว่า “พรหม” พระพรหมยังอยู่ในกามาวจรภพ มีการวนเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสวรรค์ที่เรียกว่าชั้นพรหม (พรหมภูมิ) พระพรหมแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ พรหมที่มีรูป เรียกว่า “รูปพรหม” มีทั้งหมด ๑๖ ชั้น และพรหมที่ไม่มีรูป เรียกว่า “อรูปพรหม” มีทั้งหมด ๔ ชั้น โดยอรูปพรหมจะสูงกว่ารูปพรหม
           
                     พร้อมกันนี้ พระมหารัตนะ ยังบอกด้วยว่า ใน พ.ศ.๒๕๕๕ ซึ่งเป็นอภิลักขิตกาลที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ครบ ๒,๖๐๐ ปี กิจกรรมหนึ่งที่วัดช่องแสมสารจัดงานร่วมเฉลิมฉลอง คือ การปฏิบัติธรรม ทั้งนี้หากใครได้ไปวัดในช่วง ๑๘.๐๐ น.ของวันศุกร์ และวันเสาร์ จะเห็นภาพ ผู้เฒ่า ผู้แก่ หนุ่มสาว เด็กวัยรุ่น และวัยเรียน แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหลากสีสัน นับร้อยๆ คน นั่งสวดมนต์อย่างเป็นระเบียบรอบโบสถ์ นอกจากนี้แล้วคนที่มาวัดช่องแสมสารอาจจะมองเห็นการก่อสร้างศาสนสถานมากมาย รวมทั้งอาจจะมองว่าวัดช่องแสมสารเป็นวัดท่องเที่ยว แต่อีกมุมหนึ่ง ทางวัดก็สร้างคนด้วย มีการเปิดสอนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ สอนปฏิบัติธรรม รวมทั้งสอนธรรมะศึกษาให้เด็กนักเรียนในท้องถิ่นอีกด้วย
           
                     ในขณะที่ พระธรรมกิตติวงศ์ หรือเจ้าคุณทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดราชโอรสาราม ได้อธิบายความหมายของคำว่า “พรหม” หมายถึง ผู้ประเสริฐ ทั่วไปหมายถึง เทพเจ้าองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์ เรียกว่า พระพรหม เป็นผู้สร้างโลก และเป็นผู้กำหนดชะตา หรือความเป็นไปของมนุษย์ ซึ่งเรียกว่า พรหมลิขิต
           
                     นอกจากนี้แล้ว คำว่า "พรหม" ในพุทธศาสนายังหมายถึง ผู้ได้รับรูปฌาน และอรูปฌาณแล้วไปเกิดเป็นเทพอยู่บนพรหมโลกซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด เป็นผู้ปราศจากกาม ไม่ข้องแวะกับกาม ไม่มีความใคร่ในกามารมณ์ และยังหมายถึงผู้ตั้งมั่นประพฤติมั่นอยู่ในธรรม ๔ ประการ ที่เรียกว่า พรหมวิหารธรรม คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ด้วย เช่น ยกย่องบิดามารดาว่าเป็นพรหมของบุตร


    • Update : 21/5/2555
    © Copyright 2011 www.watbangwaek.com All rights reserved